-: :- ยินดีต้องรับเข้าสู่เว็บ บ้านโคกล่าม วนอุทยานน้ำตกบ๋าหลวง ครับ ป่าเขียว น้ำใส อ่างน้ำสวย -: :-

สินค้า OTOP

แจ่วบองสมุนไพร

ผ้ามัดหมี่ฝีมือชาวบ้าน

หัตถกรรมเสื่อกก

การทำแจ่วบองสมุนไพร

วัตถุดิบ

1. ปลาร้า ปลาร้าที่นิยมนำมาผลิตแจ่วบองได้แก่ปลาร้าจากปลาช่อน ปลาขาว ปลาดุก ปลาหมอ ปลาตะเพียน ปลาเนื้ออ่อน ปลายี่สก เป็นต้น

2. เครื่องเทศต่างๆ ประกอบด้วย พริกชี้ฟ้าแห้ง หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด เป็นต้น

3. เครื่องปรุงต่างๆ เช่นน้ำตาลทราย เกลือ น้ำปลา ผงชูรส เป็นต้น

4. ส่วนผสมอื่นๆ เช่น ปลาย่าง ปลาป่น ข้าวคั่ว ขิง กระเทียมดอง มะเขือพวง มะเขือเทศ กระปิ เป็นต้น

สูตรแจ่วบองตัวอย่าง

ปลาร้า 5 กก.

พริกแห้งหรือพริกป่น 1 กก.

หอม 1.5-2 กก.

กระเทียม 1.5-2 กก.

ข่า 0.5-1 กก.

ตะไคร้ 0.2-0.5 กก.

ใบมะกรูด 0.05-0.2 กก.

มะขามเปียก 0.5 กก.

ผงชูรส 0.08-0.1 กก.

น้ำตาล 0.2-0.5 กก.

เกลือไอโอดีน 0.03 กก

ราคาขาย 10 - 20 บาท

หัตถกรรมเสื่อกก

“กก” ไม้ล้มลุกที่มีรูปร่างและระบบนิเวศคล้ายกับหญ้าพบได้ทั่วไป ตามบริเวณที่ชื้นแฉะหนองน้ำหรือบึงพืชที่ใครๆก็มักจะจัดอยู่ในกลุ่มวัชพืชไม่เป็นที่ต้องการของเกษตรกร แต่สำหรับชาวตำบลห้วยยาง“กก”กลับกลายเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนเล็กๆในจังหวัดขอนแก่นแห่งนี้ได้ลืมตาอ้าปากมีอาชีพเสริมและเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ได้อย่างดีสร้างรายได้เฉลี่ยถึงเดือนละ 5,000 บาท

กรรมวิธีการทำนั้นเพียงนำทักษะการ“ทอเสื่อ”ที่ได้รับสืบทอดจากบรรพบุรุษมาประยุกต์ใช้และพัฒนาต่อยอดจนทำให้“กก” พืชไม้ล้มลุกธรรมดากลายเป็น“เสื่อกก” สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์

“กก” เป็นพืชที่มีความเหนียวทนทานเติบโตเร็วทั้งยังหาได้ทั่วไปในท้องถิ่น ชาวบ้านในชุมชนจึงคิดที่จะนำพืชท้องถิ่นชนิดนี้มาทอเป็นเสื่อเพื่อเก็บไว้ใช้สอยภายในครัวเรือน หรือเพื่อใช้เป็นของฝากของกำนัล

ตลาดท้องถิ่น

ขั้นตอนที่ 1 การสอยต้นกก

1. ตัดต้นกกสด

2. คัดเลือกต้นกกที่มีขนาดเท่ากันไว้ด้วยกัน

3. นำต้นกกที่คัดแล้วมาสอยเป็นเส้นเล็กโดยใช้มีดปลายแหลมคม(มีดแกะสลัก)

4. นำเส้นกกที่สอยแล้วมาผึ่งแดด ให้แห้ง(ถ้าเป็นไปได้ต้องเป็นแดดที่กล้าจัด)

5. นำเส้นกกสอยที่ตากแห้งแล้วมากมัดเป็นมัด ๆ รอการย้อมสี

ราคาที่ขาย 300

ขายเป็นคู่ละ 500

สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก

ผ้าไหมมัดหมี่ ต. ห้วยยาง

ผ้าไหมมัดหมี่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของอีสานที่มีวิธีการสร้างลายผ้าไหมด้วย วิธีโบราณสืบต่อกัน มานาน โดยนำเส้นไหมมามัดแล้วย้อมสีต่างๆ ตามที่กำหนด และเมื่อนำเส้นไหมที่ย้อมสี แล้วไปทอ ก็จะได้ผ้าไหมที่มีลวดลายสีสันสวยงาม กรรมวิธีมัดและย้อมเส้นไหมนี้ชาวอีสานเรียกว่า "มัด หมี่ ตำบลห้วยยาง อำเภอกระนวนเป็นตำบลที่ทอผ้าไหมมัดหมี่เป็นอุตสาหกรรมหลัก เป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวจะผ่านเลย ไปเสียมิได้มักจะแวะชมกรรมวิธีการผลิต ตั้งแต่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมจนถึง นำรังไหมมาต้มเพื่อสาว เส้นไหม เล็กๆสีทองออกมา มัดหมี่ย้อมลวดลายจนกระทั่งทอเป็นผืนผ้าสำเร็จ ตำบลห้วยยางห่างจาก ตัวจังหวัด ขอนแก่น ประมาณ 85 กิโลเมตร ไปตามถนนมิตรภาพขอนแก่น - อุดรธานี เข้า อำเภอน้ำพอง- อำเภอกระนวน แล้วเข้าทางสาย กระนวน-ท่าคันโท ออกจากกระนวน 18 กิโลเมตร ถึง ทางแยกเข้าตำบลห้วยยาง

ผ้าฝ้ายมัดหมี่

ชาวบ้านที่นี่แทบทุกครัวเรือน จะทอผ้าฝ้ายมัดหมี่และซิ่นไหม มัดหมี่แต่ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกัน มากคือการทอผ้าฝ้ายมัดหมี่ซึ่งมีกรรมวิธีการผลิตและการทอเช่นเดียว กับผ้าไหมมัดหมี่ลวดลายผ้า ดัดแปลงมาจากสภาพแวดล้อมที่พบเห็น ผ้าฝ้ายที่นี่นับได้ว่ามีคุณภาพดี สวย งาม และราคาย่อมเยา ผู้ที่ต้องการจะแวะซื้อผ้าพร้อมทั้งชมกรรมวิธีการผลิตสามารถมาที่บ้านห้วยยางได้ ชาวบ้านจะทอขาย เองตามบ้าน บ้านห้วยยางจะอยู่ห่างจาก อ. กระนวน 18 กิโลเมตร

ราคา ผ้าฝ้ายมัดหมี่ 100-500 บาท

ผ้าไหมมัดหมี่ 1,000-2,500 บาท ราคาต่อรองกันกับชาวบ้านได้